
สำหรับการเป็นนักจิตวิทยาแม้บางคนอาจมองว่าพื้นฐานต้องมีความเข้าใจโลก เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น เรียนรู้การให้กำลังใจให้คำแนะแนวปรึกษาที่ดีเพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้ หากมองแบบผิวเผินก็ดูเหมือนว่าการทำงานด้านจิตวิทยาเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยาก หากใครที่ชื่นชอบหรือมีความสนใจในเรื่องราวลักษณะนี้คงไม่ใช่สิ่งที่เกินความสามารถพวกเขาเกินไปที่จะทำได้ ทว่าในความเป็นจริงแล้วกว่าที่ก้าวขึ้นมาเป็นนักจิตวิทยามืออาชีพได้จะต้องผ่านสิ่งต่างๆ มากมายไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบหรือความเข้าใจเพียงอย่างเดียว สิ่งเหล่านี้ต้องมีหลักสูตรที่ถูกต้องด้วยจึงจะทำให้การเป็นนักจิตวิทยาสมบูรณ์แบบที่สุด
เส้นทางกว่าจะเป็นนักจิตวิทยาที่ควรรู้
สำหรับขั้นแรกของการจะเป็นนักจิตวิทยาอาจไม่ได้ถูกมองว่าจะต้องชอบหรือไม่ชอบเสมอไปแต่ขึ้นอยู่กับว่ามองการเป็นนักจิตวิทยาอย่างไร หากรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ดีสิ่งที่น่าสนใจการเป็นนักจิตวิทยาก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อตัดสินใจให้กับตนเองได้แล้วสิ่งต่อมาที่ต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเรียนหนังสือ โดยปกติแล้วพื้นฐานการเรียนปริญญาตรีของบ้านเราก็ 4 ปี โดยสามารถเลือกเรียนในสาขาจิตวิทยาให้คำปรึกษา หรือมหาวิทยาลัยบางแห่งก็มีชื่อที่เรียกต่างกันออกไปบ้างเล็กน้อยแต่โดยสรุปก็คือวิชาเดียวกัน โดยสาขาวิชานี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัยว่าจะใส่เอาไว้ในคณะอะไร บางแห่งก็ศึกษาศาสตร์, มนุษยศาสตร์, สังคมศาสตร์ ซึ่งนอกจากจะเรียนวิชาพื้นฐานและวิชาจิตวิทยาทั่วไปแล้วยังต้องเรียนวิชาหลักๆ ด้วย อาทิ จิตสรีระวิทยา เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาทที่ส่งผลต่อด้านความคิด อารมณ์ พฤติกรรม วิชาทฤษฎีการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาซึ่งก็จะมีหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มก็จะมีทฤษฎีต่างกันออกไป วิชาทฤษฎีบุคลิกภาพ วิชาการปรับพฤติกรรม วิชาวิธีวิจัยทางจิตวิทยา วิชาการให้คำปรึกษากลุ่ม วิชาการให้คำปรึกษารายบุคคล และยังมีอีกหลายๆ วิชาที่ต้องเลือกเรียน เมื่อจบหลักสูตรปริญญาตรีแล้วก็ต้องเรียนต่อในหลักสูตรปริญญาโทอีกอย่างน้อย 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งการเรียนนะดับนี้จะเน้นการปฏิบัติงานจริงมากขึ้น มีแบบการฝึกรายบุคคล บางมหาวิทยาลัยมีให้เรียนการให้คำปรึกษาครอบครัว ถือว่าเป็นวิชาที่มีความซับซ้อนในการเรียนการสอนและยากมากพอสมควรเหมือนกัน
แม้จะเรียนจบทั้งปริญญาตรีและโทแล้วหากต้องการเป็นนักจิตวิทยาเพื่อให้คำปรึกษาก็ต้องมีการเรียนอบรมการให้คำปรึกษาเฉพาะทางอีกตรงนี้สามารถเลือกเรียนแนวทางที่ตนเองสนใจได้เลย และต้องอาศัยประสบการณ์มากๆ ถึงจะเป็นนักจิตวิทยาที่ดีได้ ทำให้เมื่อมองดูจริงๆ แล้วการเป็นนักจิตวิทยาไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครคิด ทุกอย่างต้องอาศัยความพยายามและความเอาใจใส่ ไม่ย่อท้ออย่างมาก