เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจ เนื่องจากคิดของคนไทยสมัยก่อน คิดว่าผู้ที่จะเดินทางไปรักษา ปรึกษาแก้ไข ปัญหาทางด้านจิตใจกับจิตแพทย์นั้น จะต้องเป็นคนมีอาการคุ้มคลั่ง เป็นบ้า เสพยาเสพติด ประสาทหลอน เป็นโรคจิตเพศต่าง ๆ นานาซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องดีที่คนไทยในปัจจุบันนี้ เห็นความสำคัญของการรักษาสภาพจิตใจ กับจิตแพทย์ดียิ่งขึ้น และอาการของโรคทางจิตใจนั้น ก็แบ่งออกเป็นหลายระดับ หลายโรค ไม่แตกต่างอะไรกับที่เราเป็นหวัดเป็นไข้หวัดใหญ่ เป็นไข้เลือดออก ซึ่งโรคแต่ละโรคนั้น ล้วนมีความรุนแรงแตกต่างกันไป

โรคซึมเศร้า อีกหนึ่งโรคทางใจ ต้องเข้ารับการรักษา

ปัจจุบันนี้เราอาจจะเคยได้ยินชื่อของโรคทางจิตเภท ซึ่งมักถูกหยิบยกมาพูดถึงในสังคมวงกว้างเสมอแล้ว โรคนั้นก็คือ โรคซึมเศร้านั่นเอง ความจริงแล้ว โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่มีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าแต่ละคนอาจจะไม่เท่าทันรู้ตัวเองว่า ตนเองนั้นกำลังเป็นโรคซึมเศร้า ทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และสุดท้ายเมื่ออาการของโรคดำเนินไปถึงขั้นตอนสุดท้าย ก็เกิดการฆ่าตัวตายขึ้นมา ซึ่งในอดีตยังไม่มีการรักษาทางการแพทย์ ก็อาจจะมีการถึกทักไปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะสิ่งลี้ลับต่าง ๆ แต่แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นอาการของโรคเหล่านี้ ที่อยู่เบื้องหลังความตายของใครหลาย ๆ คนก็ได้

สำหรับอาการของโรคซึมเศร้า แน่นอนว่าอาการหลักที่จะพบได้มากก็คือ มีผู้ป่วยจะมีอาการซึมเศร้าอยู่เกือบตลอดเวลาหรือบางครั้งก็อาจจะมีอาการฉุนเฉียว โมโหง่าย รู้สึกเบื่อ เหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่มีแรงบันดาลใจ กิจกรรมที่เคยชอบทำก็กลับไม่ชอบแล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร มีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรือในขั้นหนักก็คืออยากจะฆ่าตัวตาย เพราะว่ามีความรู้สึกว่าไม่อยากอยู่ รู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า รู้สึกความทุกข์ที่แบกรับนั้นมีมากมายนักหนาจนเกินไป และเหมือนกับว่าจะหาทางออกไม่เจอ โดยอาการที่เกิดขึ้นนี้ จะไม่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป ถ้าคุณพบว่าคนรอบข้าง หรือตนเองกำลังมีความรู้สึกเช่นนี้ อย่าลังเลใจที่จะไปปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อให้เขาวินิจฉัยสิ่งที่คุณกำลังรู้สึกได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

แนวทางในการป้องกันโรคซึมเศร้านั้น

พยายามทำให้ทั้งสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจ มีความแข็งแกร่ง ถ้าคุณพบว่าสถานการณ์ไหนที่เป็นสถานการณ์ในแง่ลบ เต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ให้คุณพยายามหลีกเลี่ยง หรือหลบหลีกมาจากสถานการณ์นั้นให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น คุณมีปัญหากับคนในบ้าน อยู่ในบ้านเดียวกันแล้วไม่มีความสุข ก็ให้คุณแยกบ้านออกมาอยู่เพียงลำพัง หรืออาการโรคซึมเศร้าของคุณนั้น มีจากสาเหตุมาจากเพื่อนที่ทำงาน ก็พยายามอย่าจะเข้าไปสุงสิง ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนในชีวิต และทำให้คุณรู้จักกันระบายอารมณ์ในแง่บวก โดยเป็นเรื่องแน่นอนว่า คนทุกคนในชีวิต จะต้องมีทั้งความสุข, ความเศร้า, ความเครียดปัญหาต่าง ๆ เข้ามาแตกต่างกัน แต่คุณสามารถระบายอารมณ์ไม่ดีเหล่านั้น ด้วยการทำกิจกรรมที่ดีมีคุณค่าเช่น การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมที่คุณชอบ เช่น การปลูกต้นไม้, การร้องเพลง, การอ่านหนังสือ, ชมภาพยนตร์ ซึ่งทำและทำให้จิตใจเกิดความเบิกบานได้รับความผ่อนคลาย

นอกจากนี้ คุณจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พยามนอนให้เป็นเวลา นอนวันละ 7 ชั่วโมงถึง 8 ชั่วโมงขึ้นไป และต้องพยายามปรับเปลี่ยนนิสัยให้ตัวเองเป็นคนคิดในแง่บวก ซึ่งจะทำให้จิตใจของคุณนั้นค่อย ๆ มีความแข็งแกร่ง เห็นคุณค่าในตัวเองขึ้น และเมื่อคุณทำสิ่งใดได้ตรงตามเป้าหมายแล้ว ก็อย่าลืมชื่นชมให้กำลังใจตัวเองด้วย