อยากเรียนจิตแพทย์ไทยที่ไหนดี

การเรียนเพื่อมาเป็นจิตแพทย์นั้น เป็นอีกสาขาวิชาหนึ่งที่ไม่ได้ง่าย เพราะฉะนั้นผู้เรียนจะต้องมีใจรักและหมั่นศึกษาความรู้อยู่เสมอ ซึ่งเป็นหลักสูตรสาขาวิชาหนึ่งของทางด้านการแพทย์ ที่ในพื้นฐานการเรียนพื้นฐานเบื้องต้นนั้น ผู้เรียนจำต้องศึกษาวิชาพื้นฐานเสียก่อน จึงจะสามารถเรียนต่อวิชาเฉพาะด้านได้ ซึ่งอาชีพจิตแพทย์เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่กำลังได้รับความนิยมในสังคมไทย สำหรับผู้ที่มีความสนใจอยากเรียนต่อทางด้านจิตแพทย์ วันนี้เราก็มีแนวทางที่น่าสนใจมาแนะนำกันค่ะ

เรียนจิตแพทย์ในประเทศไทย

ต้องขออธิบายให้คุณอ่านเข้าใจก่อนว่า จิตแพทย์กับนักจิตวิทยานั้นถึงแม้จะเรียนสาขาอาชีพเดียวกัน หากแต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้างพอสมควร จิตแพทย์จะต้องเรียนจบหลักสูตรแพทย์ 6 ปี เรียนรู้พื้นฐานในโรคทั่วไป หลังจากนั้นจึงมาเรียนต่อทางด้านเฉพาะทางทางด้านจิตวิทยา อีก 3 ปี ซึ่งเรียกว่าจิตเวชทั่วไป และสามารถเรียนเพิ่มเติมได้อีก 1 ปีในวิชาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังจากนั้นจึงเข้ารับการสอบต่ออีก 7 วัน ซึ่งมีทั้งเนื้อหาภาคปฏิบัติและเนื้อหาข้อสอบ ถ้าสอบผ่านก็จะได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของราชกิจจาวิทยาลัยในประเทศไทย

ในปัจจุบันนี้ยังมีจิตแพทย์เพียง 800 คนจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วย ส่วนทางด้านนักจิตวิทยาก็มีจุดมุ่งหมายรักษาผู้ป่วยพี่มีอาการทางจิตใจเช่นเดียวกัน แต่ไม่สอบใบประกอบโรค

ด้วยเหตุนี้หน้าที่ในการทำงานจึงมีความแตกต่างกันตรงที่จิตแพทย์มีหน้าที่ บำบัดอาการทางจิตของผู้ป่วยด้วยการใช้ยาร่วมกับการใช้จิตบำบัดในเทคนิคต่างๆ ส่วนนักจิตวิทยามีหน้าที่หลักคือทำแบบทดสอบทางด้านจิตวิทยา หรือบางคนอาจเรียนเพิ่มเติมในเรื่องของการทำจิตบำบัด

จิตแพทย์ต้องเรียนอะไรบ้าง

พื้นฐานในช่วงปีแรกก็เรียนเหมือนกับหมอทั่วไป สามารถวินิจฉัยได้รักษาโรคทั่วไปได้ เริ่มตั้งแต่การซักประวัติ, การตรวจสอบร่างกายเบื้องต้น, การตรวจสอบสภาพจิตเบื้องต้น, การเกิดขึ้นของโรค, การหาแนวทางการรักษา, หาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต แต่ก็จะมีการศึกษาเจาะลึกในเรื่องของโรคที่เกิดมาจากทางอารมณ์โรค ที่เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง การรับรู้ความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ เป็นต้น

ทักษะพิเศษของแพทย์สาขานี้ คือ การตั้งคำถาม, การรับฟังผู้ป่วยด้วยความใส่ใจ และแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทำให้คนไข้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจเล่าความรู้สึกทุกอย่างออกมาให้ได้มากที่สุด ยิ่งคนไข้เล่าประวัติความเป็นมาของตัวเองมากเท่าไหร่ จิตแพทย์ก็จะยิ่งหาสาเหตุของการเกิดโรคได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อหาสาเหตุของการเกิดโรคได้แล้ว คราวนี้วิธีการรักษาก็จะง่ายขึ้น อีกทั้งยังต้องเรียนสรรพคุณของยาที่ใช้ในการแก้ไขโรคต่างๆ, ผลลัพธ์ของการใช้ยารวมทั้งศึกษาเรื่องการทำจิตบำบัดควบคู่ไปกับการใช้ยา เป็นต้น

ความพิเศษของสาขาจิตแพทย์ คือเรียนต่อได้เลยหลังจบ 6 ปี

สาขาวิชาการแพทย์นอกจากจะมีความยากแล้ว ก็ยังเป็นอีกสาขาวิชาหนึ่งที่มีค่าใช้จ่ายในการเรียนค่อนข้างสูงเพราะฉะนั้นนักศึกษาหลายๆ คน จึงเลือกที่จะใช้ทุนในการศึกษา ก่อนที่จะมาทำงานใช้คืนทีหลัง โดยหลังจากที่เรียนจบหลักสูตรพื้นฐานครบ 6 ปีแล้ว ก็จะต้องไปทำงานเพื่อชดใช้ กรณีใช้ถ้าทุนก่อนเป็นเวลา 3 ปี แต่จิตแพทย์จัดเป็นสาขาพิเศษที่ขาดแคลนเพราะฉะนั้นจึงสามารถเรียนต่อได้ทันที

เพราะฉะนั้นคุณผู้อ่านหลายๆ คนที่มีความสนใจ อยากศึกษาต่อเพื่อเป็นจิตแพทย์ ก็คงจะพอทราบข้อมูลในเบื้องต้นกันแล้วนะคะ และสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อทางด้านสาขาวิชานี้ ก็จะต้องพัฒนาจิตใจของตัวเองให้มีคุณภาพขึ้นด้วยเพราะว่าการทำงานกับผู้ป่วยที่มีสภาพจิตใจไม่ปกตินั้น จำเป็นต้องใช้ความอดทนในระดับสูง และมีความเข้าใจในผู้ป่วยอย่างลึกซึ้ง