มีความเข้าใจในพฤติกรรมของมนุษย์
คนเรามีอวัยวะที่ครบถ้วนเหมือนกัน แต่ละคนมีความแตกต่างอยู่ในตัวคนๆ นั้นไม่มากก็น้อย
ดังนั้นเราจะต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ว่ามีอะไรบ้างและเกิดขึ้นอย่างไรได้บ้าง โดยเน้นไปที่ความแตกต่างระหว่างบุคคล ทางด้านกาย ยกตัวอย่าง หน้าตา ท่าทาง สีผิว ท่าทาง กล้ามเนื้อ อ้วนหรือผอม หรือส่วนสูง ซึ่งในความแตกต่างนี้หมายถึงรูปร่างที่เราสามารถมองเห็นได้ในทางกายภาพ ทางด้านอารมณ์ เป็นการแสดงสีหน้าอาการที่เด่นชัดว่าคนคน นั้นรู้สึกอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น โกรธ หัวเราะ มีความสุข หงุดหงิด ดีใจ กังวล ร้องไห้ ซึ่งแต่ละท่าทางนั้นมีท่าทีในการแสดงอาการที่ต่างกันออกไปตามอารมณ์ของคนคน นั้นทางด้านสติปัญญา ข้อนี้เป็นเรื่องของการมีความรู้ในการแก้ไขสถานการณ์ หรือการใช้ปัญญาที่ตัวเองมีอยู่ใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ทางด้านสังคม ความสามารถที่คนคน นั้นสามารถแสดงออกในหมู่เพื่อนหรือคนในสังคมได้ “ เมื่อเรารู้และเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์แล้ว เราสามารถรับมือกับกิริยาท่าทางของคนที่สนทนาด้วยว่าเขานั้นต้องการอะไร จะทำอะไร หรือรู้สึกอะไรอยู่ ”
จิตวิทยานั้นสามารถป้องกันอันตรายที่กระทำกับร่างกายและจิตใจได้
โดยวิธีการจัดการปัญหาที่ค้างคาใจเรื่องที่ค้างคาใจในชีวิตประจำวันของเรา เช่น การประคับประคองเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนของเรา เรื่องปัญหาครอบครัว เรื่องของความเครียดจากการทำงาน ปัญหาหนี้สินเงินทองที่ติดขัด และอีกเยอะแยะมากมาย โดยเรื่องพวกนี้จะแปรสภาพกลายเป็นความเครียดและเมื่อความเครียดเกี่ยวกับเรื่องประเภทนี้จะกลายเป็นความเครียดสะสม ซึ่งจิตวิทยานั้นสามารถบรรเทาและรักษาโรคเครียดได้โดยการพบแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ หรือที่เราเรียกกันว่า จิตแพทย์
ในเรื่องของธุรกิจนั้นจิตวิทยาก็เป็นข้อดีเช่นกัน
เป็นการเพิ่มความได้เปรียบในการตกลงหรือเจรจาต่อรองไม่ว่าจะเรื่องของผลประโยชน์ ในเรื่องการพูดคุยเรื่องของหุ้นส่วน ในเรื่องของการซื้อ – ขาย ในเรื่องของการโน้มน้าวจิตใจในการเจรจาที่ทำให้ง่ายขึ้น แต่ก็จะต้องรู้หลักการการพูดเพื่อโน้มน้าวไม่ใช่เป็นการชักจูง หรือถ้าเป็นข้อเสียและข้อดีไปในตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเราจ้างนักมวยให้ล้มมวยเราจะต้องพูดโน้มน้าวโดยการยื่นข้อเสนอเพิ่มเงินให้มากกว่าที่เขาควรจะได้แล้วเราจะเดิมพันไปที่ฝั่งตรงข้ามที่ชนะเพื่อที่เราจะได้เงิน ข้อดีก็คือเราอาจจะได้เงินเยอะ แต่ข้อเสียก็คือ เด็กคนนั้นที่เป็นนักมวยถ้าหากโดนจับได้ว่าล้มมวยก็อาจจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
ช่วยส่งเสริมในเรื่องของการศึกษา
เป็นการเสริมการมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น โดยที่นำความรู้ในด้านจิตวิทยาไปใช้ในการสำรวจของปัญหาในด้านการศึกษา เป็นการแนะนำสายอาชีพ การเรียนต่อ การโน้มน้าวให้สนใจในเรื่องการศึกษาและช่วยเหลือในเรื่องเรียนให้ครอบคลุมถึงการดูแลสภาพจิตใจของผู้สอนและผู้เรียนได้อีกด้วย
จิตวิทยามีประโยชน์ในด้านของกฎหมายของการทำผิด
ยกตัวอย่างง่ายๆ ตำรวจสามารถจับกุมคนค้ายาเสพติด แต่คนนั้นไม่รับสารภาพ ตำรวจที่เรียนหรือศึกษาในด้านจิตวิทยาจะมีการพูดโน้มน้าวจิตใจให้ผู้กระทำความผิดนั้นเอ่ยปากยอมรับผิดให้ได้ไม่มากก็น้อย อย่างเช่น โกหกว่าจะช่วยเหลือในเรื่องคดี ถ้ารับสารภาพจะมีการลดโทษ ขอเพียงแค่รับสารภาพว่ากระทำจริง ผู้ต้องหาก็ต้องเริ่มคิดและตกอยู่ในคำพูดเชิงจิตวิทยาโดยปริยาย
ด้านจิตวิทยานั้นก็สามารถปลุกใจนักกีฬาได้
ยกตัวอย่างเช่น นักฟุตบอลทีมชาติไทยนั้นมีกองหน้า 1 คนไม่มีความมั่นใจในการลงแข่งในนัดถัดไปเนื่องจากนัดก่อนๆ มีฟอร์มที่ไม่ดีมาตลอด ทางโค้ชหรือผู้ช่วยที่มีการฝึกซ้อม และมีความรู้ในด้านจิตวิทยา ก็จะมีการพูดเพื่อปลุกเร้าจิตใจ ในการลงแข่งนัดถัดไป เพื่อให้นักกีฬามีกำลังใจในการแข่งขัน และเพิ่มความมั่นใจให้นักกีฬาได้