
การที่คนคนหนึ่งต้องทราบว่าตัวเองนั้นมีโรคที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ซึ่งโรคนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีอยู่แล้ว เราเองก็รู้ตัวว่าตอนนี้ร่างกายเริ่มมีอาการผิดปกติ สภาพจิตใจของคนๆ นั้นก็จะเริ่มแย่ลงไปด้วย ดังนั้นเพื่อจิตใจของเราย่ำแย่ ร่างกายก็จะเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ตามไปด้วยนั่นเอง ดังนั้นการใช้จิตวิทยาในการรักษาโรค จึงมีความสำคัญมากๆ เพราะไม่เพียงแต่โรคผิดปกติทางจิตใจเท่านั้น แต่โรคอื่นๆ ก็สามารถที่จะรักษาด้วยจิตวิทยาได้ เพียงแต่ว่าผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ใช่โรคนั้นหายไป แต่สภาพจิตใจนั่นเอง ที่เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ร่างกายของคนป่วยนั้นดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่คนป่วยแต่ละคนมีพื้นฐานทางร่างกาย จิตใจที่ไม่เหมือนการ บางครั้งผู้ป่วยเองมีพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับความจริงกับสิ่งที่ตนเผชิญอยู่ แล้วไม่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำที่แพทย์แนะนำ เพราะตนนั้นมีความเชื่อว่าตัวเองไม่ได้มีโรคอย่างที่แพทย์ระบุไว้ การรักษาจึงเป็นไปได้ยาก เช่น หากมีผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน แพทย์แนะนำเธอว่าให้ลดการทานอาหารที่มีรสหวานให้น้อยลง พร้อมทั้งจัดยามาให้เธอรับประทาน แต่เธอกลับไม่ยอมรับคำแนะนำของแพทย์ เธอไม่ปฏิบัติตามที่แพทย์สั่ง เธอไม่ทานยา อาการนั้นเป็นเพราะว่าจิตใจของเธอ ไม่สามารถที่จะยอมรับความจริงได้ว่าตัวเองนั้นเป็นโรคเบาหวาน เธอไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ดังนั้นในส่วนของการรักษาโรคจึงเป็นไปได้ยาก เพราะคนป่วยไม่ทานยา ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ บางครั้งนอกเหนือจากการไม่ปฏิบัติตามแล้ว บางคนก็มีอาการเครียดแทรกเข้ามาอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คน จึงมีความเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากการรักษาแบบตรงจุดก็คือ การใช้จิตวิทยาในการรักษาจิตใจของผู้ป่วยก่อน ให้ผู้ป่วยยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วสร้างทัศนคติที่ดีกับโรคประจำตัวของตัวเอง แล้วการรักษาแบบตรงจุดก็จะสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ผู้ป่วยมีวินัยมากขึ้น ส่งผลให้การรักษานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ไม่เพียงแต่จะดีขึ้นกับตัวผู้ป่วยเท่านั้น คนใกล้ชิดของผู้ป่วยเองก็จะรู้สึกดีไปด้วย เพื่อเห็นคนป่วยนั้นมีสภาพจิตใจที่แข็งแรง ถึงแม้ว่าร่างกายอาจจะไม่ได้แข็งแรงเท่าไรนักก็ตาม
การใช้จิตวิทยาในการรักษาโรค ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นโรคที่ไม่สามารถหายขาดได้ เพราะคนป่วยเองจะต้องจำยอมอยู่กับโรคร้ายเหล่านี้ไปตลอดชีวิต ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุข อยู่อย่างมีสติ อยู่ด้วยสภาพจิตใจที่ดี เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีจะได้ตามมานั่นเอง โดยหลักการของการใช้จิตวิทยาในการรักษาสภาพจิตใจของผู้ป่วย คือการที่จะทำอย่างไร เพื่อที่จะให้ผู้ป่วยนั้นคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเผชิญอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต ทำให้คนป่วยพร้อมที่จะสู้กับโรคดังกล่าว